ชิมเบียร์ ชาละวันเพลเอล (Chalawan Pale Ale) กันเถอะ

ถ้าจะพูดถึง เบียร์ชาละวัน เพลเอล (Chalawan Pale Ale) แล้ว คาดว่าท่านผู้อ่านคงมีโอกาสเห็นผ่านหูผ่านตามาบ้างพอสมควร เบียร์ขวดสีเขียวโลโก้รูปจระเข้ ซึ่งถ้ามองไกลๆจะดูเหมือนจระเข้ผูกโบว์ แต่เมื่อมองใกล้ๆ โบว์นั้นกลับกลายเป็นแขนของหญิงสาวดูทะมัดทะแมงนางหนึ่ง ซึ่งกอดคอพญาจระเข้ชาละวันนั้นอยู่

เบียร์ชาละวันนี้ เป็นเบียร์ฝีมือคนไทยครับ จากค่าย Fullmoon Brewworks ที่ภูเก็ต เนื่องจาก ณ ปัจจุบันนี้ การตั้งโรงคราฟท์เบียร์ในไทยเพื่ออัดขวดจำหน่ายนั้น ทำได้ยากเหลือเกิน ทางค่ายจึงต้องข้ามน้ำข้ามทะเล เอาสูตรเบียร์ที่คิดค้นพัฒนาขึ้นในบ้านเรา ไปทำไกลถึงออสเตรเลีย ก่อนที่จะอิมพอร์ตเสียภาษีเข้ามาจำหน่ายอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

รูปลักษณ์

แพคเกจจิ้งของเบียร์นั้น มาในรูปแบบขวดสีเขียว ตัวโลโก้อย่างที่บอกว่าเป็นรูปพญาจระเข้สีเขียว มันวาว ถ้าหากลองเอาโลโก้ไปส่องสะท้อนกับแสงไฟจะพบว่า ผิวจระเข้นั้น มันสะท้อนแสดงได้ ผู้หญิงที่กอดคอชาละวันอยู่ผมคาดว่าน่าจะเป็นร่างแปลงของจระเข้ที่เป็นภรรยาของชาละวันนั่นแหล่ะ เดาจากเครื่องแต่งที่หู กับการคาดมีดสั้นไว้ที่เอว ที่บริเวณหางของชาละวันมีตัวหนังสือภาษาไทย "ชาละวัน เพล เอล" จารึกเอาไว้ เมื่อดูโดยรวม ผมชอบแฮะ ให้ความรู้สึกถึงตำนานนิทานพื้นบ้านดี ดูเรียบ แต่หรู อยู่ในยุคสมัย

ทำไมต้องชาละวัน

คำถามหนึ่งที่ถูกถามกันมากคือ "ทำไมต้องชาละวัน ?" เพราะเมื่อพูดถึงชาละวัน ทุกคนจะต้องนึกถึงจังหวัด "พิจิตร" ทั้งๆที่ค่าย Fullmoon Brewworks นั้น มาจากจังหวัด "ภูเก็ต"

หลังจากที่สอบถามทางผู้ผลิตไป ก็ได้ใจความมาว่า ชาละวัน เนี่ยะ เป็นสิ่งที่แสดงออกถึงคาร์แร็คเตอร์ของเบียร์ตัวนี้ได้ดีที่สุด เบียร์ที่กลิ่นหล่อ หอมมาก เย้ายวน มีเสน่ห์ เหมือนตอนชาละวันอยู่ในร่างมนุษย์ แต่ก็พร้อมที่จะแสดงออกถึงความเกรี้ยวกราด ดุดันเมื่ออยู่ในร่างของพญาจระเข้

เรื่องราวของเบียร์ได้รับการจารึกไว้บนลังด้วยนะครับ ขอบอก ถ่ายรูปมาให้ดูได้เลยตามด้านล่าง

ชิมกันเถอะ

เอาหล่ะ ได้เวลาชิมแล้ว ในวินาทีที่ผมเปิดฝา ผมก็ได้กลิ่นหอมออกไปทางลิ้นจี่ ตามสไตล์ของเบียร์แนวเพลเอล โผล่ออกมาเลย มันเป็นกลิ่นที่ต้องบอกว่า หอมมาก ดีงามตามมาตรฐานของเพลเอลที่เป็นคราฟท์เบียร์ชั้นดี แต่กลิ่นจะออกไปทาง ลิ้นจี่โทนเดียวไปหน่อย มาแบบเรียบๆ ตรงๆ แต่ก็สดใสดี

เนื้อเบียร์ออกไปทางสีเหลืองทองๆส้มๆ จะว่าไปก็ค่อนข้างใสนะแต่ไม่ใสกริ๊งแบบลาเกอร์ ฟองก็ขึ้นดี OK ตามมาตรฐาน

จิบแรกบอกเข้าปาก บอกได้เลยว่า เป็นเบียร์ที่ดื่มแล้วสดชื่นมาก เนื้อเบียร์มีบอดี้นะ ไม่ได้ใสบางแบบลาเกอร์ แต่แปลกที่ให้ความรู้สึกว่า ดื่มลื่นง่ายและสะอาด ความขมก็ไม่ได้ขมมาก ขมตามมาตรฐานเบียร์เพลเอลทั่วไปๆ ส่วนความหวานของมอลต์นั้น ขอบอกว่า จัดว่าหวานมาก แต่ก็ไม่เลี่ยนเพราะว่ามีรสเปรี้ยวจางๆออกไปทางมะนาวๆมาตัด

อาฟเตอร์เทส ไม่ค่อยมีเท่าไร น่าจะเป็นเพราะว่าเขาต้องการออกแบบมาให้เป็นเบียร์ที่ดื่มง่ายๆ ในวันอากาศร้อนๆ เบาๆ สบายๆ นั่นเอง

(เพิ่มเติมนิดนึง เรื่องความขมนั้น หลังจากไปทดสอบกับหลายๆท่านก็พบว่า ความขมขึ้นอยู่กับอุณหภูมิครับ ตอนที่เบียร์เย็นเจี๊ยบนั้น ดื่มแล้วชื่นใจมาก แต่เมื่อเบียร์เริ่มอุ่นขึ้น คุณลักษณะของฮอปส์ที่ซ่อนอยู่ก็เริ่มแสดงออกมามากขึ้น ทำให้รสขมเพิ่มเติมขึ้นมาด้วย เหมือนกับพญาชาละวันค่อยๆกลายร่างเป็นจระเข้จริงๆ - ผู้เขียน เพิ่มเติมวันที่ 20 พ.ค.59)

ความคิดเห็นส่วนตัว

สรุปโดยรวมแล้ว ผมชอบนะ จัดเป็นเบียร์ที่ดื่มง่ายๆ ในวันที่อากาศร้อนๆ หรือพักทานข้าวกับเพื่อนตอนเย็นแต่ยังไม่อยากจะดื่มอะไรหนักๆให้มึนหนัก ผมก็ว่าตัวนี้เหมาะดี ด้วยกลิ่นหอมออกสไตล์ลิ้นจี่ที่ใครดมก็ต้องบอกว่าหอมมาก (ตอนชิม คุณหลานอายุยังไม่ 2 ขวบดี ยังเดินมาขอแก้วไปดมแล้วดมอีก) รสชาติที่ดื่มง่าย ลื่นคอ สะอาดปาก หวานๆ แซมเปรี้ยวนิดๆ ขมหน่อยๆ ก็จัดว่าเป็นเบียร์ที่ดื่มแล้วได้มาตรฐานดีตัวหนึ่งครับ

ต้องขออนุญาตเป็นตัวแทนท่านผู้อ่าน ขอบคุณ Brewer จากค่าย Fullmoon Brewworks จากใจจริง ที่คุณได้รังสรรค์ เบียร์คุณภาพดีเช่นนี้ออกมา

เจ๋งมากเลยครับ ขอบอก