ชิม Lion Stout สเตาท์จากแดนศรีลังกา - Small Bar Company

Header Ads

ชิม Lion Stout สเตาท์จากแดนศรีลังกา


ได้ยินชื่อ Lion Stout จากกลุ่มเพื่อนๆมานานมากแล้วครับ... เพื่อนๆเขาบอกว่ามันเป็นสเตาท์ที่ดีมาก พอเอาชื่อไปค้นในเว็บจัดอันดับเบียร์ก็พบว่าได้คะแนนรีวิวดีอย่างเหลือเชื่อ... อย่าง RateBeer ได้คะแนน Overall ตั้ง 98 แหน่ะ... วันนี้ดีใจมาก ได้ชิมเสียที...

หลังจากที่ชิมแล้ว สิ่งแรกที่ผมอยากทำคือ ผมอยากจะเดินไปบอกกระทรวงศึกษาธิการครับ ให้เพิ่ม Lion Stout ตัวนี้เข้าไป เป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกที่มีชื่อเสียงของประเทศศรีลังกา เพิ่มเติมจาก ชาซีลอน

คือ จะบอกว่า อร่อยมาก จนไม่อยากเชื่อเลยว่านี่คือสเตาท์ที่ผลิตในประเทศแถบเอเชียของเรานี่เอง... รายละเอียดจะเป็นอย่างไร มาดูกันครับ


ดูฉลากกันก่อน


Symbolic black to denote leadership, power, focus and strength, is dominant in the labeling as the lion journeys in the twilight unafraid, unbowed and unchallenged.

ข้อความที่ผมยกมาด้านบน มาจากส่วนหนึ่งของคำบรรยายเบียร์ตัวนี้จากผู้ผลิตครับ... เขาว่า ภาพของสิงโตที่มุ่งทะยานอยู่ท่ามกลางทุ่งยามอาทิตย์อัสดง มันแสดงถึงความเป็นผู้นำ พละกำลัง และความแข็งแกร่ง ที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างที่ไม่กริ่งเกรงผู้ใด ไม่สยบยอมต่ออำนาจใดๆด้วย... โอ้ว เป็นเบียร์ที่ ดุ จังแฮะ... hahaha


With curries, chillies and any other tongue roasting tropical tastes, no other beer goes quite as well as a Lion Stout. The cold, dark beer designed to complement spicy foods, brewed by people for whom they are a way of life.

เขาบอกว่า เบียร์เขาเนี่ยะ เป็นเบียร์ที่ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการกินอาหารที่มีรสเผ็ดร้อนของเครื่องเทศ... ก็มันต้มโดยคนที่ใช้ชีวิตอยู่กับอาหารที่มีรสเผ็ด จัดจ้าน ไม่ว่าจะเป็นผงกระหรี่, พริก หน่ะสิ... คราวนี้กินเปล่าๆ แต่ถ้ามีโอกาสจะลองไปกินกับอาหารอินเดียดูนะครับ... กินแป้งนานจิ้มแกงดาลมากานี่แล้วกลั้วคอด้วย Lion Stout ท่าจะฟิน... >//<"


ได้หลายรางวัลอยู่


มีรุ่นพี่เล่าให้ผมฟังว่า สเตาท์ตัวนี้ติด 1 ใน 10 เบียร์สเตาท์ที่ดีที่สุดในโลก... พอพลิกมาด้านหลังนี่เชื่อละครับ ได้รางวัล Monde Selection ทั้งระดับ Gold และ Grand Gold มาหลายปี เลยทีเดียว... สมคำบอกเล่าจริงๆ...


ชิมละ เทหล่ะนะ


ได้เวลาชิมกันแล้วหล่ะครับ สำหรับเบียร์แก้วนี้ ผมไปดื่มที่ร้าน Beer Lover แถวบ้านผมเอง เลยได้เทลงในแก้วของ Lion เลย 

เนื้อเบียร์ที่เทออกมานั้น สีดำสนิทมากครับ ดำแบบทึบแสง ส่องกับไฟก็ไม่ทะลุด้านหลังด้วย ฟองที่ออกมานั้นสีน้ำตาล มีความละเอียดระดับนึงแต่ไม่เกาะเป็นโฟมหนาแน่นมาก พร้อมกับสลายไปเมื่อเวลาผ่านไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง 



ดมๆกันก่อน

ตามปกติแล้ว ตอนที่ผมดื่มกินเนสสเตาท์ กลิ่นแรกที่ผมคาดหวังว่าจะได้คือ "กลิ่นกาแฟ" ครับ... ถามว่าตัวนี้มีกลิ่นกาแฟมั๊ย ขอตอบได้เลยว่า "มี แต่เป็นกาแฟคนละแบบกับกินเนส"... กาแฟตัวนี้ออกไปทาง "อเมริกาโนใส่ไซรัป"...

กลิ่นแรกที่มาสัมผัสจมูกของเราเวลาดมคือ กลิ่นออกหอมๆหวานๆ เหมือนน้ำตาลทรายแดง ก่อนที่จะตามมาด้วยกลิ่นหอมออกเปรี้ยวนิดๆของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ตามมาด้วยกลิ่นควันๆ คั่วๆ น้อยๆ จางๆ ตอนท้ายๆ สำหรับการดมกลิ่นขั้นแรกนั้น ผมไม่เจอกลิ่นกาแฟแฮะ... แต่ถ้าถามว่าหอมมั๊ย ก็จัดว่าหอมเลยแหล่ะ


จิบหล่ะนะ

หลังจากที่ดมเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาชิมครับ... สัมผัสแรกที่เบียร์โดนลิ้นคือ หวาน ก่อนเลย ความหวานนี้ออกไปทาง คาราเมล น้ำเชื่อมที่ทำจากน้ำตาลทรายแดง หวานๆ หอมๆ ประมาณนั้น ก่อนที่ความเปรี้ยวจะขี่อยู่บนความหวานนี้เพื่อถ่วงดุลไม่ให้มีความหวานเกินไป ในขณะที่ผมกำลังรับความเปรี้ยวอยู่นั้น กลิ่นหอมที่ออกไปโดนบลูเบอรี่ก็โผล่ขึ้นมา ก่อนที่จะจบด้วยรสขมตอนที่ผมกลืน

อ้อ ผมเจอแล้วครับ รสชาติของกาแฟนั้นมันออกมาตอนท้าย ตอนที่ผมกลืนพร้อมกับขณะที่ผมเจอรสขมนี่เอง... สำหรับรสขมนี้ มันไม่ได้ขมแบบบอระเพ็ด หรือขมหนักๆคล้ายตอนที่เราดื่ม IPA นะ แต่มันเป็นความขมที่มาแป้ปเดียว แล้วก็ผ่านไป ไม่ได้ขมหนักมาก ขมออกประมาณกาแฟๆ อ้อ แล้วก็ผมเจอกลิ่นของช็อคโกแลตในตอนท้ายนี้ด้วย

หลังจากที่ดื่มไปสักระยะแล้ว เบียร์ก็เริ่มอุ่นขึ้น กลิ่นที่ตอนแรกไม่ทันได้สังเกตุเห็นก็ชัดขึ้นมานิดนึง สิ่งที่ชัดเจนขึ้นมาตอนนี้คือ "กลิ่นควัน" ครับ... กลิ่นสโมคที่ผมบอกได้เลยว่า ดูน่าพึงใจมาก เป็นกลิ่นสโมคจางๆน้อยๆที่พอดีมาก เพราะถ้าหากว่ามันมากกว่านี้มันจะกลายเป็นฉุน และมีกลิ่นออกไปทางยาฆ่าเชื้อหรือฟอร์มาลีนแทน... ตรงจุดนี้ผมให้คะแนนค่อนไปทางกลิ่นสโมคมากกว่ากลิ่นคั่ว เพราะว่ามันมีกลิ่นออก "ยางๆหนังๆ" แพลมเกาะมาด้วยนิดนึง เลยค่อนข้างจะตีให้เป็นกลิ่นสโมคมากกว่า

สำหรับเนื้อสัมผัสนั้น ผมบอกได้เลยว่า เหนียว หนึบ มาก และไม่ค่อยมีความซ่า... คือสัมผัสได้ถึงการคาร์บอเนชั่นที่อยู่ภายในนะครับ เป็นพลายฟองเล็กๆมาเกาะอยู่ที่ลิ้น ไม่ใช่ฟองใหญ่ฟูฟ่องแบบเวลาดื่มโซดา... หลังจากดื่มไปสักระยะ ก็ลองแกว่งแก้วดู ก็พอเนื้อเบียร์ที่เกาะเคลือบผนังแก้วอยู่ จนสีของแก้วออกไปทางน้ำตาลเรื่อยๆเลยทีเดียว แสดงว่า ข้นจริง... hahaha


เบียร์ตัวนี้ Aftertaste ออกไปทางมันๆ หวานๆนะครับ... หลังจากที่กลืนลงคอไปแล้ว ค่อนข้างที่จะรู้สึกมันเลยทีเดียว 


เป็น Stout ทำไมหวาน ???

สิ่งหนึ่งที่ผมสงสัยตอนชิมตัวนี้ แล้วเทียบกับ Guinness คือ ทำไม Lion Stout หวานนำ ในขณะที่ Guinness นั้นมีความเป็นกาแฟนำ... หลังจากที่ผมลองไปค้นข้อมูลดูจากเว็บของ BJCP ก็พบว่า จริงๆแล้ว ถึงแม้ว่า Guinness กับ Lion Stout จะจัดเป็น Stout เหมือนกัน แต่ว่า มันยังแบ่งแยกเป็นประเภทย่อยไปอีกครับ โดย Guinness นั้น จัดอยู่ในกลุ่ม Irish Stout (หมายเลข 15B จากคู่มือสไตล์เบียร์ ปี 2015) ซึ่งจะมีลักษณะออกกาแฟ/ช็อคโกแล็ตนำ ในขณะนี้ Lion Stout นั้น จัดอยู่ในกลุ่ม Tropical Stout (16C) ซึ่งจะมีรสชาติความหวานของมอลต์ที่ค่อนข้างเด่นกว่า

ว้าววว ความรู้ใหม่เลยนะครับนี่... ^-^


สรุปโดยรวม

จัดว่าเป็นสเตาท์ที่ดีที่สุดตัวหนึ่งของโลกเลยครับ ในราคาที่ไม่แรงมาก จิบไปอึกหนึ่งแล้วก่อให้เกิดความรู้สึกว่าอยากที่จะจิบอีก ดื่มอีก และในขณะที่ดื่มไป ลักษณะของเบียร์ก็มีอะไรให้ค้นเจอได้อีกเรื่อยๆ... อย่างไรก็ตาม ผมก็ว่ามันเหมาะที่จะดื่มเป็นตัวปิดท้าย หรือดื่มเป็น Dessert Beer คือ เบียร์ที่ดื่มหลังจากทานอาหารเสร็จนะครับ ถ้าหากว่าใช้มันเปิดเป็นตัวแรก คาดว่าจะต่อตัวอื่นๆไม่ไหว... hahaha

ปล 1. เอาจริงๆ เบียร์นี้ได้รับการสนับสนุนจาก WishBeer ในการให้มา Review นะครับ แต่ว่าขวดที่เขาส่งมาให้นี่ยกให้คุณพ่อดื่มไปแล้ว สุดท้ายเลยต้องไปจัดหามารีวิวคืน... hahaha ^-^

ข้อมูลผลิตภัณฑ์

ชื่อ/Name : Lion Stout
ประเภท/Style : Stout
แอลกอฮอลล์/Alcohol : 8.8%
ผลิตโดย/Brewed by : Ceylon/Lion Brewery
ประเทศ/Country : Sri Lanka

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.